1. วิธีการปลูกพืชผัก พืชผักมีหลายชนิด
วิธีการปลูกจึงต้องเลือกให้เหมาะสม
พืชผักแต่ละชนิดมีส่วนซึ่งนำไปขยายพันธุ์เมื่อปลูกได้แตกต่างกัน
ซึ่งพอจะแบ่งวิธีปลูกได้เป็น 3 วิธี คือ
1.1 การปลูกด้วยเมล็ดโดยตรง
1.2 การปลูกโดยวิธีการย้ายกล้า
1.3 การปลูกโดยอาศัยส่วนต่างๆของต้นพืช
2. การปลูกพืชผักสวนครัวด้วยเมล็ดโดยตรง
เป็นวิธีที่ใช้กันอยู่ทั่วไปในที่ที่ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำและศัตรูพืชมากนัก
วิธีนี้มีข้อดี สามารถทำให้พืชผักเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมธรรมชาติตั้งแต่เริ่มงอก
ทำให้การเจริญเติบโตไม่ต้องหยุดชะงักเหมือนการย้ายปลูกและเปลืองแรงงานน้อยกว่า
การปลูกด้วยเมล็ดมีด้วยกัน 3 วิธี คือ
2.1 การหว่านเมล็ด นิยมใช้กับพืชผักกินใบที่มีอายุสั้น โตเร็ว มีระยะปลูกถี่
หาเมล็ดได้ง่าย ราคาถูก เช่น ผักบุ้ง ผักกาดกวางตุ้ง ผักชี
โดยจะนำเมล็ดห่อผ้าและแช่น้ำไว้หนึ่งคืน ก่อนที่จะทำการหว่าน
2.2 การหว่านเมล็ดแล้วถอนแยก เป็นวิธีการที่นิยมมากในภาคกลาง
พืชผักที่นิยมปลูกโดยวิธีนี้ได้แก่ คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดเขียวปลี ผักกาดหอม
ผักกาดหัว หลังจากหว่านเมล็ดแล้วประมาณ 2 สัปดาห์
จึงจะทำการถอนแยกต้นกล้าเพื่อจัด ระยะปลูกให้เหมาะสม
2.3 การปลูกโดยการหยอดเป็นหลุม
นิยมใช้กับพืชผักที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ซึ่งต้นกล้าแข็งแรงและเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ได้แก่ ข้าวโพดหวาน ถั่วต่างๆ แตงต่างๆ บวบ มะระ โดยเตรียมหลุมให้มีระยะปลูกที่เหมาะสม
หลังจากงอกแล้วก็จะมีการ ถอนแยกให้เหลือจำนวนต้นตามที่ต้องการ
3. การปลูกพืชผักสวนครัวโดยวิธีการย้ายกล้า
กล้าผัก คือพืชต้นอ่อนที่มีใบจริง 2 – 3 ใบ หรือสูง 5
– 10 เซนติเมตร หรือมีอายุประมาณ 21–30 วัน
ทั้งนี้แล้วแต่ชนิดของพืชผัก ซึ่งบางชนิดมีอายุมากกว่านี้ เช่น พริก มะเขือ
หอมหัวใหญ่มีอายุ 45 วัน หน่อไม้ฝรั่งมีอายุ 4 – 6 เดือน ผักที่ควรเพาะกล้าย้ายปลูก คือผักที่มีเมล็ดขนาดเล็ก
และทนต่อการกระทบกระเทือนจากการย้ายได้ดี เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี มะเขือ
มะเขือเทศ พริก หอมหัวใหญ่ หน่อไม้ฝรั่ง
หน่อไม้ฝรั่งมีอายุ 4 – 6 เดือน
ผักที่ควรเพาะกล้าย้ายปลูก คือผักที่มีเมล็ดขนาดเล็ก
และทนต่อการกระทบกระเทือนจากการย้ายได้ดี เช่น กะหล่ำปลี ผักกาดขาวปลี มะเขือ
มะเขือเทศ พริก หอมหัวใหญ่ หน่อไม
Post A Comment:
0 comments: