ปัญหาการเลี้ยงกุ้งกามแดง
กุ้งก้ามแดงกับหน้าหนาว
กุ้งก้ามแดงกับหน้าหนาว
ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นในแต่ละภาคของประเทศไทย
การเลี้ยงกุ้งก้ามแดงจำนวนมาก ผู้เลี้ยงอาจจะวิตกกังวลกันว่าจะรับมือกับหน้าหนาวอย่างอย่างไรดี
วันนี้เรามีข้อมูลจากผู้เลี้ยงกุ้งก้ามแดงฟาร์มใหญ่ๆ
ที่ผ่านการเลี้ยงกุ้งจำนวนมากและก็เจอปัญหานี่เหมือนกัน ผู้เพาะพันธุ์ที่อยู่
เชียงราย เชียงใหม่ ในภาคเหนือ หนองคาย อุบลราชธานี ขอนแก่น และอีกหลายจังหวัดในภาคอีสาน
จะหนาวกว่าภาคกลางมากก็สามารถผ่านมาได้ สรุปได้ดั้งนี้
- อากาศหนาวสัตว์น้ำจะไม่ค่อยกินอาหาร
- สัตว์น้ำที่อยู่ในเขตหนาวเย็น สามารถอยู่ได้แต่กินอาหารน้อยลง (จำศิล)
- จากการศึกษาข้อมูล กุ้งก้ามแดงอยู่ในอากาศเย็นในออสเตรเลีย ในหน้าหนาวเหมือนกัน ดังนั้นไม่มีปัญหาในการเลี้ยงในหน้าหนาว
- วิธีง่ายๆในการเลี้ยงในหน้าหนาว เอาผ้าใบมาคลุมบ่อเลี้ยงทุกบ่อ ที่เลี้ยงในโรงเรือนและที่เลี้ยงในบริเวณบ้าน ไม่ให้ลมลงไปในบ่อเลี้ยง เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้เปลี่ยนเร็วจนเกินไป
- การเปลี่ยนถ่ายก็เปลี่ยนตามปกติ อาจจะเปลี่ยนสัก 50 % ก็ได้แล้วแต่ผู้เลี้ยง
- การให้อาหารให้ลดปริมาณลง และค่อยสังเกตว่ากุ้งกินอาหารหมดหรือไม่ ถ้าไม่หมดก็ลดลงอีก ถ้าหมดก็ค่อยเพิ่มอาหารที่ละนิด
- อากาศหนาวสัตว์น้ำจะไม่ค่อยกินอาหาร
- สัตว์น้ำที่อยู่ในเขตหนาวเย็น สามารถอยู่ได้แต่กินอาหารน้อยลง (จำศิล)
- จากการศึกษาข้อมูล กุ้งก้ามแดงอยู่ในอากาศเย็นในออสเตรเลีย ในหน้าหนาวเหมือนกัน ดังนั้นไม่มีปัญหาในการเลี้ยงในหน้าหนาว
- วิธีง่ายๆในการเลี้ยงในหน้าหนาว เอาผ้าใบมาคลุมบ่อเลี้ยงทุกบ่อ ที่เลี้ยงในโรงเรือนและที่เลี้ยงในบริเวณบ้าน ไม่ให้ลมลงไปในบ่อเลี้ยง เพื่อรักษาอุณหภูมิของน้ำไม่ให้เปลี่ยนเร็วจนเกินไป
- การเปลี่ยนถ่ายก็เปลี่ยนตามปกติ อาจจะเปลี่ยนสัก 50 % ก็ได้แล้วแต่ผู้เลี้ยง
- การให้อาหารให้ลดปริมาณลง และค่อยสังเกตว่ากุ้งกินอาหารหมดหรือไม่ ถ้าไม่หมดก็ลดลงอีก ถ้าหมดก็ค่อยเพิ่มอาหารที่ละนิด
วิธีป้องกัน
"กุ้งน็อคน้ำ" เบื้องต้น
วิธีป้องกันกุ้งก้ามแดงน็อคน้ำ
หลายๆคนซื้อกุ้งมาแล้วกลัวว่าเปลี่ยนน้ำ
เปลี่ยนอุณหภูมิ ในน้ำใหม่กลัวกุ้งจะน็อคน้ำ แต่ถ้าเรายกมันขึ้นมาจากน้ำเดิม
ถึงใช้ระยะเวลานานสักพักใหญ่ ปล่อยลงไปได้เลยนะครับไม่ต้องไปปรับน้ำอีก
(กุ้งออกมาเดินเตร่ข้างนอก 30 นาทีไม่มีน้ำ
โยนกลับไปใหม่ก็ยังไม่ตาย) แต่ก็อย่าลองกันบ่อยๆครับ
เรื่องกุ้งน็อคน้ำ กุ้งไม่น็อคน้ำง่ายเหมือนปลา ยิ่งกุ้งที่ผ่านการปรับน้ำจากการเลี้ยงบ่อดินมาสัก 24-48 ชั่วโมงแล้ว ก่อนเอามาเลี้ยงน้ำใสๆ ที่บ้านเรามันก็ไม่ได้น็อคง่านดายขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ทุกตัวที่ จะแข็งแรง แล้วจะปรับน้ำเพื่อความชัวร์ควรทำอย่างไงดี ผมมี 4 วิธี ดังนี้
1. วิธีนี้ชัวร์สุด เสียเวลานานหน่อย ก็เอาใส่กล่องพลาสติก ใสๆ เหมือนกล่องขนม (กล่องบางๆ เลยนะครับหนาๆไม่มีประโยชน์ เพราะความหนาปรับ แค่ 5-15 นาที อุณหภูมิไม่ใก้ลเคียงกันแน่นอน ) ก็ให้ลอยอยู่บนน้ำ สัก 5-15 นาทีแล้วเติมน้ำที่จะเลี้ยงในนาที ที่ 5 ให้ใส่ 1ส่วน3 ของภาชนะ
นาทีที่ 10 ให้ใส่ อีก 1 ส่วน 3 ของภาชนะ แล้วปล่อยได้เลย
2. วิธีนี้ใช้เวลา น้อยลงมาหน่อย เอากุ้งใส่ในกะละมัง ไว้ด้านนอกบ่อ ไม่ต้องลอย เอากุ้งใส่รวมกัน ถ้ามีจำนวนหลายๆ ตัว ก็เอาหัวทรายจุ่มไว้สักหัว แล้วนำน้ำในบ่อที่จะเลี้ยงมาเติม 1 ส่วน 3 ทิ้งไว้ 5 นาทีก็ปล่อยกุ้งลงบ่อได้เลย
3. วิธีนี้เสียเวลาแป็บเดียว แต่ใช้ได้กับกุ้งขนาด 2 นิ้วขึ้น. นำกุ้งทั้งหมดหรือถ้ามีเยอะมาก ก็ให้แบ่งทำ เอากุ้งใส่ลงในตะกร้าเหลี่ยม หรือกลม. หรือพวกฝาชี อะไรประมาณแบบนั้น ที่มีรูเยอะๆ. ให้นำตระกร้า ที่ใส่กุ้งยกจุ่มๆ ในน้ำที่จะเลี้ยง โดนให้น้ำทั่วหลังกุ้งแล้วยกขึ้น แล้วจุ่มอีก 10 ครั้ง แล้วปล่อยกุ้งลงน้ำได้เลย วิธีนี้ผมทำบ่อยสุด กุ้งผ่านมือผมมาเยอะ ไม่เคยตายวิธีนี้สักตัวครับ วิธีนี้เป็นวิธีที่กันลืมได้ดีที่สุดผมก็เลือกใบ้วิธีนี้เพราะเร็วและง่ายที่สุด
4. หรือใครจะใช้วิธีสุดท้าย ไม่ต้องปรับอะไรทั้งนั้น โยนลงบ่อเลย แต่แบบนี้กุ้งแข็งแรงก็ไม่เป็นไร กุ้งบางตัวอาจเป็นแต่ผมเชื่อว่าไม่เยอะ เป็นจำนวนที่น้อย ถ้าตอนที่ขนย้ายมา กุ้งไม่เดินมากจนเกินไป ใส่น้ำเย็นๆ มา(ไม่ใช่ใส่น้ำเย็นหรือน้ำแข็งในกุ้งนะครับ) หมายถึงน้ำเดิมที่เขาเลี้ยงที่ตักมาแล้วมันเย็น โดยที่ระหว่างขนย้ายอุณหภูมิน้ำไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
หมายเหตุ
- กุ้งที่ขนย้ายระยะทางไกลๆอาจจะต้องปรับน้ำช่วยสักนิด
- กุ้งน็อคน้ำเอาตัวกุ้งยกขึ้นมาใส่น้ำแค่พอท่วมตัวกุ้งพอ เหมือนให้มันเดินแห้งๆ
- กุ้งน็อคน้ำใส่น้ำน้อยๆแค่พอท่วมหลังใส่เกลือแค่หยิบมือและใส่กัวทรายตีฟองให้แรงๆ
อ้างอิงจาก http://crayfishfarmth.blogspot.com/
เรื่องกุ้งน็อคน้ำ กุ้งไม่น็อคน้ำง่ายเหมือนปลา ยิ่งกุ้งที่ผ่านการปรับน้ำจากการเลี้ยงบ่อดินมาสัก 24-48 ชั่วโมงแล้ว ก่อนเอามาเลี้ยงน้ำใสๆ ที่บ้านเรามันก็ไม่ได้น็อคง่านดายขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ทุกตัวที่ จะแข็งแรง แล้วจะปรับน้ำเพื่อความชัวร์ควรทำอย่างไงดี ผมมี 4 วิธี ดังนี้
1. วิธีนี้ชัวร์สุด เสียเวลานานหน่อย ก็เอาใส่กล่องพลาสติก ใสๆ เหมือนกล่องขนม (กล่องบางๆ เลยนะครับหนาๆไม่มีประโยชน์ เพราะความหนาปรับ แค่ 5-15 นาที อุณหภูมิไม่ใก้ลเคียงกันแน่นอน ) ก็ให้ลอยอยู่บนน้ำ สัก 5-15 นาทีแล้วเติมน้ำที่จะเลี้ยงในนาที ที่ 5 ให้ใส่ 1ส่วน3 ของภาชนะ
นาทีที่ 10 ให้ใส่ อีก 1 ส่วน 3 ของภาชนะ แล้วปล่อยได้เลย
2. วิธีนี้ใช้เวลา น้อยลงมาหน่อย เอากุ้งใส่ในกะละมัง ไว้ด้านนอกบ่อ ไม่ต้องลอย เอากุ้งใส่รวมกัน ถ้ามีจำนวนหลายๆ ตัว ก็เอาหัวทรายจุ่มไว้สักหัว แล้วนำน้ำในบ่อที่จะเลี้ยงมาเติม 1 ส่วน 3 ทิ้งไว้ 5 นาทีก็ปล่อยกุ้งลงบ่อได้เลย
3. วิธีนี้เสียเวลาแป็บเดียว แต่ใช้ได้กับกุ้งขนาด 2 นิ้วขึ้น. นำกุ้งทั้งหมดหรือถ้ามีเยอะมาก ก็ให้แบ่งทำ เอากุ้งใส่ลงในตะกร้าเหลี่ยม หรือกลม. หรือพวกฝาชี อะไรประมาณแบบนั้น ที่มีรูเยอะๆ. ให้นำตระกร้า ที่ใส่กุ้งยกจุ่มๆ ในน้ำที่จะเลี้ยง โดนให้น้ำทั่วหลังกุ้งแล้วยกขึ้น แล้วจุ่มอีก 10 ครั้ง แล้วปล่อยกุ้งลงน้ำได้เลย วิธีนี้ผมทำบ่อยสุด กุ้งผ่านมือผมมาเยอะ ไม่เคยตายวิธีนี้สักตัวครับ วิธีนี้เป็นวิธีที่กันลืมได้ดีที่สุดผมก็เลือกใบ้วิธีนี้เพราะเร็วและง่ายที่สุด
4. หรือใครจะใช้วิธีสุดท้าย ไม่ต้องปรับอะไรทั้งนั้น โยนลงบ่อเลย แต่แบบนี้กุ้งแข็งแรงก็ไม่เป็นไร กุ้งบางตัวอาจเป็นแต่ผมเชื่อว่าไม่เยอะ เป็นจำนวนที่น้อย ถ้าตอนที่ขนย้ายมา กุ้งไม่เดินมากจนเกินไป ใส่น้ำเย็นๆ มา(ไม่ใช่ใส่น้ำเย็นหรือน้ำแข็งในกุ้งนะครับ) หมายถึงน้ำเดิมที่เขาเลี้ยงที่ตักมาแล้วมันเย็น โดยที่ระหว่างขนย้ายอุณหภูมิน้ำไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงไปมากนัก
หมายเหตุ
- กุ้งที่ขนย้ายระยะทางไกลๆอาจจะต้องปรับน้ำช่วยสักนิด
- กุ้งน็อคน้ำเอาตัวกุ้งยกขึ้นมาใส่น้ำแค่พอท่วมตัวกุ้งพอ เหมือนให้มันเดินแห้งๆ
- กุ้งน็อคน้ำใส่น้ำน้อยๆแค่พอท่วมหลังใส่เกลือแค่หยิบมือและใส่กัวทรายตีฟองให้แรงๆ
อ้างอิงจาก http://crayfishfarmth.blogspot.com/
Post A Comment:
0 comments: